เมนู

สารีบุคคลเหล่านั้น อย่างนี้ก่อน. สำหรับของธัมมานุสารีบุคคล มรรคเป็น
ของกล้าแข็ง ย่อมนำไปสู่ญาณที่แกล้วกล้า ย่อมตัดกิเลส ด้วยไม่ต้องมีใคร
มากระตุ้น ไม่ต้องใช้ความเพียร เหมือนใช้คมดาบที่คมกริบ ตัดต้นกล้วย
ฉะนั้น. ส่วนมรรคของสัทธานุสารีบุคคลไม่กล้าแข็งเหมือนธัมมานุสารีบุคคล
ไม่นำไปสู่ญาณที่แกล้วกล้า ย่อมตัดกิเลสโดยไม่ต้องให้ใครมากระตุ้นไม่ต้องใช้
ความเพียร เหมือนใช้ดาบที่ทื่อตัดต้นกล้วยฉะนั้น. แต่ในเรื่องการสิ้นกิเลสแล้ว
ท่านเหล่านั้น ไม่มีความแตกต่างกันเลย. และเหล่ากิเลสที่เหลือ ก็ย่อมจะสิ้นไป
(เหมือนกัน).
จบอรรถกถาปฐมสังขิตตสูตร

3. ทุติยสังขิตตสูตร



ความต่างแห่งผลเพราะความต่างแห่งอินทรีย์



[878] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ 5 ประการนี้ 5 ประการเป็น
ไฉน คือ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ อินทรีย์ 5 ประการนี้แล.
[879] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นพระอรหันต์ เพราะอินทรีย์
5 ประการนี้เต็มบริบูรณ์ เป็นพระอนาคามี เพราะอินทรีย์ 5 ยังอ่อนกว่า
อินทรีย์ของพระอรหันต์ เป็นพระสกทาคามี เพราะอินทรีย์ 5 ยังอ่อนกว่า
อินทรีย์ของพระอนาคามี เป็นพระโสดาบัน เพราะอินทรีย์ 5 ยังอ่อนกว่า
อินทรีย์ของพระสกทาคามี เป็นพระโสดาบันผู้ธัมมานุสารี เพราะอินทรีย์ 5
ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระโสดาบัน เป็นพระโสดาบันผู้สัทธานุสารี เพราะ
อินทรีย์ 5 ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระโสดาบันผู้ธัมมานุสารี ดังพรรณนามา
ฉะนี้ ความต่างแห่งผลย่อมมีได้เพราะความต่างแห่งอินทรีย์ ความต่างแห่ง
บุคคลย่อมมีได้เพราะความต่างแห่งผล.
จบทุติยสังขิตตสูตรที่ 3